การดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนของกลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวช
ในฐานะผู้ประกอบการด้านกิจการโรงพยาบาลและบริการสุขภาพชั้นนำ เราตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างครอบคลุม ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานที่ยั่งยืนขององค์กร การประเมินและบริหารความเสี่ยงนี้จะพิจารณาทั้ง ความเสี่ยงทางกายภาพ (Physical Risks) ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยตรง และ ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนผ่าน (Transition Risks) ซึ่งเกิดจากกระบวนการปรับตัวไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ โดยมุ่งเน้นการบูรณาการความเสี่ยงเหล่านี้เข้ากับการบริหารจัดการระดับองค์กร เพื่อให้สามารถรับมือกับผลกระทบได้อย่างมีประสิทธิภาพและรักษาไว้ซึ่งคุณภาพการบริการทางการแพทย์
ผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ
หากบริษัทฯ ไม่สามารถปรับตัวตามความต้องการของผู้ป่วยที่ตระหนักถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่เชื่อมโยงกับสภาพภูมิอากาศ หรือไม่สามารถพัฒนากลยุทธ์ด้านความยั่งยืนที่ชัดเจน อาจส่งผลให้สูญเสียความได้เปรียบทางการแข่งขัน
การพลาดโอกาสในการลงทุนในเทคโนโลยีหรือบริการทางการแพทย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การแพทย์ทางไกลที่ลดการเดินทางของผู้ป่วย หรือการพัฒนาแนวคิดโรงพยาบาลสีเขียว
การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับการขยายธุรกิจ หรือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่โดยไม่ได้พิจารณาถึงความเสี่ยงทางกายภาพ เช่น การเลือกทำเลที่ตั้งในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ หรือความเสี่ยงจากการเปลี่ยนผ่านอย่างรอบด้าน
แนวทางการบริหารความเสี่ยง
กำหนดให้การจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลักและนโยบายระดับองค์กร
ศึกษาแนวโน้มของโรคที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อพัฒนาบริการทางการแพทย์เฉพาะทางใหม่ ๆ และพิจารณาโอกาสจากการใช้เทคโนโลยีสะอาดหรือการเป็นผู้นำในด้านการดูแลสุขภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พิจารณาความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศอย่างรอบด้านในการตัดสินใจลงทุนสร้างโรงพยาบาลใหม่ หรือขยายสาขา รวมถึงการจัดหาเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ
แนวทางการบริหารความเสี่ยง
ผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ
การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เช่น ค่าพลังงาน, ค่าน้ำ, ค่าจัดการของเสีย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อม
บริษัทประกันภัยอาจปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยสำหรับทรัพย์สินหรือการหยุดชะงักทางธุรกิจ เนื่องจากความถี่และความรุนแรงของภัยพิบัติที่เพิ่มขึ้น
นักลงทุนและสถาบันการเงินให้ความสำคัญกับปัจจัยด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) มากขึ้น หากบริษัทไม่มีผลงานที่ดีด้านความยั่งยืน อาจส่งผลต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุน หรือต้องเผชิญกับต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น
สินทรัพย์บางประเภทที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ หรือไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต อาจมีการประเมินมูลค่าลดลง
แนวทางการบริหารความเสี่ยง
ประเมินผลตอบแทนจากการลงทุนในมาตรการลดความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศอย่างรอบด้าน เพื่อให้เห็นถึงประโยชน์ในระยะยาว เช่น การประหยัดพลังงาน
จัดสรรงบประมาณที่เพียงพอสำหรับการลงทุนในมาตรการลดความเสี่ยงและการสร้างความยืดหยุ่นด้านสภาพภูมิอากาศ
สำรวจโอกาสในการเข้าถึง Green Bonds หรือ Green Loans ที่มีเงื่อนไขผ่อนปรนสำหรับธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
รวบรวมข้อมูลและจัดทำ รายงานผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างโปร่งใส ตามมาตรฐานสากล เพื่อดึงดูดนักลงทุนที่มีความรับผิดชอบและสร้างความน่าเชื่อถือ
ผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ
การออกกฎหมายหรือระเบียบใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, การใช้พลังงาน, การจัดการน้ำ, หรือการจัดการของเสียทางการแพทย์ที่เข้มงวดขึ้น อาจทำให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามได้ทันเวลา
การไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอาจนำไปสู่บทลงโทษทางกฎหมาย, ค่าปรับ, หรือการเพิกถอนใบอนุญาตการดำเนินงาน
ข้อกำหนดในการรวบรวมและเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้ทรัพยากรและระบบในการจัดการข้อมูลจำนวนมาก
แนวทางการบริหารความเสี่ยง
จัดตั้งทีมงานหรือกลไกในการติดตามและวิเคราะห์กฎหมาย, นโยบาย, และมาตรฐานใหม่ๆ ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
ปรับปรุงนโยบายการดำเนินงานและพัฒนากระบวนการควบคุมภายในให้สอดคล้องกับกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
เข้าร่วมหารือหรือให้ข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐในการร่างกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กฎระเบียบมีความเหมาะสมและสามารถปฏิบัติได้ในภาคธุรกิจโรงพยาบาล
ผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ
บุคลากรทางการแพทย์อาจเผชิญกับ ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศโดยตรง เช่น โรคจากความร้อน โรคระบบทางเดินหายใจจากมลพิษทางอากาศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ ความสามารถในการทำงาน และ กำลังคน (Workforce availability)
ในช่วงที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรง การเดินทางของบุคลากรมายังโรงพยาบาลอาจเป็นไปได้ยากหรือเป็นอันตราย ทำให้เกิดการขาดแคลนบุคลากรในการปฏิบัติงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน
บุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่มีความตระหนักและให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หากองค์กรไม่แสดงความรับผิดชอบหรือมีมาตรการที่ชัดเจน อาจส่งผลต่อความยากลำบากในการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพไว้ในระยะยาว
แนวทางการบริหารความเสี่ยง
ผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลให้เกิด การระบาดของโรคที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ เช่น ไข้เลือดออก โรคระบบทางเดินหายใจ ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจเกินขีดความสามารถในการรองรับของโรงพยาบาล
ภัยพิบัติทางธรรมชาติอาจทำให้ ผู้ป่วยไม่สามารถเดินทางมายังโรงพยาบาลได้ หรือการขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นไปได้ยาก ทำให้ผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที
ผู้ป่วยที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ หรือคุณภาพอากาศที่แย่ลง หากระบบควบคุมสภาพแวดล้อมภายในโรงพยาบาลขัดข้อง
แนวทางการบริหารความเสี่ยง
ผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ
หากบริษัทถูกมองว่าไม่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม หรือถูกเชื่อมโยงกับการปล่อยมลพิษ หรือไม่สามารถจัดการกับผลกระทบจากภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจส่งผลเสียต่อ ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ
ผู้ป่วย คู่ค้า และสาธารณะ อาจขาดความไว้วางใจ หากโรงพยาบาลไม่สามารถรักษาระดับการบริการ หรือเกิดความเสียหายจากภัยพิบัติที่อาจป้องกันได้
แนวทางการบริหารความเสี่ยง
การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นระบบและครบวงจรในทุกมิติที่กล่าวมาข้างต้น จะช่วยให้เราสามารถรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ ลดผลกระทบเชิงลบ และสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นผู้นำในการยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างแท้จริง